พระราชวังแวร์ซายวังสวยแห่งฝรั่งเศส

643
0
Share:

พระราชวังหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่งใหญ่อลังการและสวยงาม สถานที่สำคัญที่เป็นที่พักอาศัยของกษัตริย์ประเทศต่าง ๆ โดยในโลกของเรามีพระราชวังชื่อดังมากมาย วันนี้ TRAViZGO จะพาคุณบินลัดฟ้าไปชมหนึ่งในวังชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส พระราชวังแวร์ซาย หนึ่งในไฮไลท์ที่ใครมาฝรั่งเศสต้องไม่พลาด! พระราชวังแห่งนี้จะมีความสวยและแตกต่างจากพระราชวังอื่นอย่างไร ตามมาดูกันได้เลย

พระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles)

ชมวังหลวงแห่งฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ที่เมือง แวร์ซาย ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส กับพระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles) หรือที่ในฝรั่งเศสเรียกว่า Château de Versailles ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบัน และในปี ค.ศ. 1979 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม พระราชวังที่เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์ฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในพระราชวังที่สวยและยิ่งใหญ่ ประวัติของพระราชวังแห่งนี้ย้อนกลับไปในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 เนื่องจากพระองค์ชื่นชอบธรรมชาติและการล่าสัตว์ เคยมาล่าสัตว์ที่เมืองแวร์ซายหลายครั้ง จนปี ค.ศ. 1623 ได้สร้างที่พักขนาดเล็กสำหรับพักผ่อนเวลาที่มาล่าสัตว์ที่นี่ ต่อมาในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระองค์ได้ตัดสินใจย้ายราชสำนักมาอยู่ที่เมืองแวร์ซาย และทำการปรับปรุงที่พักหลังเก่า จนกลายเป็นพระราชวังที่สวยงามและหรูหราของยุโรป เริ่มทำการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1661 ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 30 ปี ใช้เงินในการสร้างประมาณ 500,000,000 ฟรังก์ และคนงานก่อสร้าง 30,000 คน  พระราชวังแห่งนี้ยังใช้เป็นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง โดยคณะทูตของไทยเคยมายังพระราชวังแห่งนี้ ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยา พระราชวังแห่งนี้เป็นที่พำนักของราชวงศ์ฝรั่งเศสเรื่อยมา จนมาสิ้นสุดในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 จากการปฎิวัติฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนพระราชวังแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1837 พระราชวังแห่งนี้เลยกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ให้เราได้เข้าชมในปัจจุบัน

อุทยานแวร์ซายส์ (Gardens of Versailles)

พระราชวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกบาโรคและรอคโคโค อาคารทุกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ที่มีการตกแต่งอย่างสวยงาม มีพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ โดยรอบตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยสวนสวยขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกแต่งสวนระดับโลก ชื่อ เลอโนทด์ ร่วมกับช่างใหญ่ผู้ออกแบบสร้างวังทั้งสองท่านคือ เลอบรังและมอนสาร์ท สวนใหญ่แห่งนี้เรียกว่า อุทยานแวร์ซายส์ (Gardens of Versailles) มีเนื้อที่กว้าง 14,820 เอเคอร์ ประกอบไปด้วยน้ำพุ ทะเลสาบจำลอง รูปปั้นต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่สัตว์ไปจนถึงเทพเจ้ากรีซในตำนาน สวนแห่งนี้ยังเป็นการใช้ระบบชลประทานรูปแบบใหม่ โดยมีการขุดคลองจากแม่น้ำเซนน์ซายส์มายังสวน และใช้เครื่องปั๊ม ทำให้เกิดเป็นน้ำพุทั่วทั้งอุทยาน

ห้องกระจก (The Hall of Mirrors)

ตัวอาคารของพระราชวังสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวทุกส่วน ตัวพระราชวังถูกแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon, และ The Park ในส่วนของพระราชวัง (The Palace) มีความอลังการเป็นอย่างมาก โดยมีห้องกว่า 700 ห้อง หน้าต่างกว่า 2,153 บาน บันได 67 อัน และเตาผิง 1,315 เตา โดยไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของพระราชวังได้แก่ ห้องวีนัส ห้องที่ใช้เป็นที่พักของทูตที่เดินทางมาถวายสาส์น ภายในห้องมีรูปปั้นขุนทรงศึก แบบโรมันของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในประวัติศาสตร์ห้องนี้ราชทูตจากไทยในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา เคยมาพักที่ห้องแห่งนี้ บนเพดานห้องตกแต่งด้วยภาพเทพธิดาแห่งความงามที่สวยงาม ต่อกันที่ห้องไดอาน่า ห้องที่ใช้พักผ่อนในพิธีบิลเลียด ผนังห้องทั้ง 2 ด้านตกแต่งด้วยรูปเทพธิดาไดอาน่าประทับรถม้าหลวงออกล่าสัตว์  ต่อที่ห้องด้านหลังขอพระราชวัง ห้องส่วนตัวของพระราชินี ภายในมีประตูพิเศษและบันไดลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ ปิดท้ายห้องทีเป็นไฮไลท์ของพระราชวัง ห้องกระจก (The Hall of Mirrors) ห้องที่ใหญ่ที่สุดของพระราชวัง และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง ห้องประกอบไปด้วยกระจกบานใหญ่กว่า 17 บาน ถ้าเปิดออกจะพบกับสวนแวร์ซายอันงดงาม เป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดเลี้ยง ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นเวลากว่า 300 ปี และยังมีความสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ห้องนี้ถูกใช้ในการเซ็นสนธิสัญญาที่สำคัญ ได้แก่ สนธิสัญญาตั้งอาณาจักรเยอรมัน และสนธิสัญญาแวร์ซายส์ “สงบศึกสงครามโลกครั้งที่ 1”

Share:

Leave a reply