เที่ยวหางโจว ดูเอเชียนเกมส์ 2023

508
0
Share:

อีกมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย กับ  AsianGames2023 ที่ปีนี้จัดกันที่หางโจว ประเทศจีน TRAViZGO จะชวนคุณไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของมหกรรมกีฬาแห่งเอเชียว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากไหน และพาคุณไปทำความรุ้จักกับเมืองที่เป็นเจ้าภาพในปีนี้ ว่าเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันได้เลย

เอเชียนเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากโอลิมปิก โดยจะมีการจัดขึ้นทุก 4 ปี เอเชียนเกมส์เริ่มขึ้นจากความคิดของ Dr.G.D.Sondhi คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศอินเดีย เพื่อยกระดับกีฬาในประเทศแถบเอเชีย เพราะจากการแข่งขันโอลิมปิก ประเทศในแถบเอเชียมีโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขันน้อย เพราะเสียเปรียบนักกีฬาจากแถบยุโรป การจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์จึงเป็นการพัฒนากีฬาของเอเชียให้เทียบเท่ากับยุโรป และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศในแถบเอเชีย โดยเอเชียนเกมส์ถูกจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 – 11 มีนาคม ปี ค.ศ. 1951 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในการจัดครั้งแรกมีประเทศที่เข้าร่วม 11 ประเทศ มี 8 ชนิดกีฬา ต่อมาในปี ค.ศ. 1982 การแข่งขันได้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีประเทศที่เข้าร่วมทั้งหมด 33 ประเทศและมีการแข่งขันกีฬา 32 ชนิด ในปัจจุบันมีชนิดกีฬาที่จัดการแข่งขันทั้งหมด 42 ชนิด ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ทั้งหมด 12 ครั้ง คือในปี 1970 (พ.ศ. 2513) และปี 1998 (พ.ศ. 2541) และเอเชียนเกมส์ที่กำลังจะจัดขึ้นในปีนี้ เป็นครั้งที่ 19 โดยจะจัดขึ้นที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ในวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม 2023 นับเป็นครั้งที่ 3 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ และปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีการนำกีฬา ESports บรรจุเข้ามาในการแข่งขัน

ทำความรู้จักกับประวัติของเอเชียนเกมส์กันแล้ว จะชวนมาทำความรู้จักกับเมืองหางโจวกันต่อ เผื่อใครที่จะตามไปเชียร์นักกีฬาไทย หางโจว เป็น 1 ใน 6 เมืองเก่าแก่ของประเทศจีน และเป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง ของจีน มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สำหรับใครที่มาชมกีฬาเอเชียนเกมส์แล้วอยากหาที่เที่ยวในเมืองนี้ เราจะพามาดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองว่ามีที่ไหนบ้าง

หางโจวเป็นเมืองที่มีความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ชมความเจริญก้าวหน้าได้ที่ ย่านเมืองใหม่ (Qianjiang New City) อยู่ทางใต้ถัดจากใจกลางเมือง โดยตั้งอยู่ริมแม่น้ำขนาดใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้ถูกทำให้เป็นย่านธุรกิจ (CBD) ของหางโจว มีตึกสูงที่รูปทรงแปลกตาตั้งอยู่มากมาย กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองหางโจว ที่มีความเจริญเทียบได้กับปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ สามารถมองความสวยงามของเมืองได้ที่จุดชมวิว City Balcony ที่เป็นสวนสาธารณะ ที่มีต้นไม้สวยงาม จากมุมนี้สามารถมองเห็นแม่น้ำและตึกสูงต่าง ๆ และอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ ตึกลูกบอลสีทองที่ดูเด่นสะดุดตา ซึ่งคือโรงแรม Intercontinental Hangzhou ห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา เป็นหนึ่งในโรงแรมของแบรนด์ InterContinental Hotels & Resorts ซึ่งมีชื่อเสียงด้านความหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย 

ล่องเรือชมธรรมชาติที่สวยงามกันที่ทะเลสาบซีหู (Xihu Lak ) หนึ่งในทะเลสาบสวยที่ไม่ควรพลาด ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองหางโจว เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 กิโลเมตร และในปี ค.ศ. 2011 ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก ไปล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้ โดยมีเรือให้บริการหลากหลายขนาด สามารถเลือกได้ตามชอบใจ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง หรือใครที่ไม่ชอบลงเรือ ก็สามารถเดินเล่นรอบทะเลสาบได้ มีถนนอยู่รอบทะเลสาบและมีต้นไม้ให้ความร่มรื่นสองข้างทาง ถ้าใครมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะให้บรรยากาศที่โรแมนติกมาก ต้นไม้รอบ ๆ จะปลี่ยนเป็นสีต่าง ๆ เหลือง แดง ส้ม และน้ำตาล และอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ใครมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ต้องแวะไปชมก็คือ เจดีย์เหลยเฟิง เจดีย์สูงทรง 8 เหลี่ยม เป็นจุดชมวิวของทะเลสาบ ใครเดินขึ้นไม่ไหวไม่ต้องกังวลเพราะมีลิฟท์ให้บริการ มีตำนานว่าเจดีย์แห่งนี้เป็นที่กักขังนาพญางูขาว ที่แปลงกายมายังโลกมนุษย์ โดยถูกเจ้าอาวาสจับขังไว้ไม่ให้ไปทำร้ายมนุษย์ และได้ร่ายคำสาบปว่างูขาวจะกลับมาที่โลกได้ก็ต่อเมื่อน้ำในทะเลสาบแห้งหมดและเจดีย์ล้มลงเท่านั้น หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของเมือง ใครมาหางโจวไม่ควรพลาด

เที่ยวไร่ชาสุดสวย อีกหนึ่งของขึ้นชื่อที่หางโจว กับชาหลงจิ่ง (Longjing Tea) ชาที่มีจุดเด่นคือกลิ่นที่หอม รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ โดยชานี้ถูกยกให้เป็นชาที่ดีที่สุดของประเทศจีน และยังเป็นสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อของเมืองหางโจว เราจะพาไปเยื่อนถิ่นกำเนิดของชา ชมหมู่บ้านที่ปลูกชา โดยมีด้วยกันหลายหมู่บ้าน แต่หมู่บ้านที่แนะนำคือ หมู่บ้านหลงจิ่ง (Longjing Village) หรือ หมู่บ้านใบชาบ่อมังกร (Dragon Well tea) ที่มาของชื่อบ่อมังกร มาจากการแปลความหมายตามภาษาจีน คำว่า หลง หมายถึงมังกร ส่วน จิ่ง แปลว่าบ่อน้ำ หมู่บ้านแห่งนี้ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งอยู่ทางตะวันตกของซีหู ชาวบ้านที่นี่ปลูกชากันมาช้านานตั้งแต่ในอดีต เข้าไปชมหมู่บ้านศึกษาการปลูกชาของชาวบ้าน ชมชาหลงจิ่ง และชมความสวยงามของต้นชาสีเขียวที่ขึ้นปกคลุมเนินเขาเป็นภาพที่สวยงาม อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดของหางโจว

Share:

Leave a reply