ทัวร์พม่า เชียงใหม่บินตรงสู่พม่า มัณฑะเลย์ อมรปุระ พุกาม มิงกุน ชมโชว์หุ่นกระบอก นั่งรถม้าชมเมืองพุกาม 4 วัน 3 คืน สายการบินบางกอก แอร์เวย์

14.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น1 เคาน์เตอร์สายการบินบางกอกแอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับอำนวยความสะดวกจัดเตรียมเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
16.30 น. ออกเดินทางสู่ มัณฑะเลย์ โดยสายการบินกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG725 (มีบริการอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง)
17.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองมัณฑะเลย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที (เวลาท้องถิ่นที่พม่าช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Victoria Palace Hotel หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอมรปุระ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
นำท่านชม สะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน สะพานสร้างจากไม้สักที่เหลือจากการรื้อพระราชวังเก่ากรุงอังวะ เมื่อครั้งย้ายเมืองหลวงจากอังวะ มายังอมรปุระ ชื่ออูเบ็งนั้นเป็นชื่อของขุนนางที่มีนามว่า “อูเบียน” ซึ่งพระเจ้าปดุงโปรดฯให้มาทำหน้าที่เป็นแม่กองงานสร้าง สะพานถูกใช้เป็นทางผ่านสำคัญสำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเป็นช่วงที่น้ำในทะเลสาบมีระดับสูงสุด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองพุกาม โดยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมง ถึงเมืองพุกาม ดินแดนแห่งเจดีย์หมื่นองค์ ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ของกษัตริย์อนิรุทมหาราช แห่งอาณาจักรพุกาม สัมผัสแหล่งโบราณสถานและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรพุกาม
ชม วัดติโลมินโล นี้เป็นวัดที่สร้างแบบก่ออิฐถือปูน บนฐานกว้างด้านละ 43 เมตร องค์เจดีย์สูง 46 เมตร ภายในวิหารมีช่องบันได เดินขึ้นสู่ระเบียงชั้นบนได้ และวิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างในแบบสถาปัตยกรรมพุกามครับ ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 4 องค์ที่ชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองของวิหาร ภายในมีช่องแสงที่เมื่อส่องกระทบพระพุทธรูปแล้วงดงามมากมาย ตัวพระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในนั้นมีความแตกต่างจากที่เห็นกันโดยทั่วไป เพราะช่วงนั้นเริ่มได้รับอิทธิพลมาจากจีน
นำท่านชม วัดอนันดา เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจน สร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน แผนผังเหมือนไม้กางเขนแบบกรีก ซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระอย่างน่าอัศจรรย์
นำท่านนั่งรถม้า สัมผัสแหล่งโบราณสถานและประวัติศาสตร์ของอาณาจักรพุกาม เมืองทะเลเจดีย์ที่สวยงาม และหมู่บ้านเก่าแก่ของเมืองพุกามที่ยังคงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่จุดชมวิว ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์อัสดงอันงดงาม
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Su Tine San Hotel หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
ชมวัดสัพพัญญู เป็นเจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในเมืองพุกามความสูงทั้งสิ้นประมาณ 61 เมตร สร้างขึ้นตามศิลปะแบบปาละของอินเดีย ก่อสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ.1687 โดยกษัตริย์อลองสิตธู ซึ่งเป็นทั้งวิหารและเจดีย์ ถือเป็นเจตีวิหารสองชั้นแห่งแรกในศิลปะพุกาม โดยปรากฏกการซ้อนกันของเรือนธาตุชั้นล่างกับชั้นบน ชั้นล่างเป็นแกนกลางขนาดใหญ่รับน้ำหนักเจตียวิหารในผังแบบครรถคฤหะ - มณฑปด้านบน เจตียวิหารสองชั้นนี้จะได้รับความนิยมต่อมาในศิลปะพุกามตอนปลาย โดยเจดีย์สำคัญที่ใช้เจดีย์สัพพัญญูเป็นต้นแบบ ได้แก่เจดีย์สูลามณีและเจดีย์ติโลมินโล
นำทุกท่านชม วิหารมนูหะ หรือวิหารพระอึดอัด สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามนุหา กษัตริย์ของชาวมอญ เมื่อพระองค์ตกเป็นเชลยของพระเจ้าอโนรธา เมื่อครั้งที่เข้าตีเมืองสุธรรมวดี หรือเมืองสะเทิม แล้วกวาดต้อนผู้คนมาที่พุกาม พระเจ้ามนุหาและพระอัครมเหสีถูกคุมขังไว้ที่ มยินกาบา ทางใต้ของพุกามและ ณ ที่นั้น ในปี พ.ศ. 1602 พระเจ้าอโนรธาทรงมีพระราชานุญาติให้พระเจ้ามนุหา สร้างวัดมนุหาขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศล กษัตริย์มอญทรงระบายความรู้สึกอึดอัดคับแค้นใจในพระราชหฤทัยของพระองค์ ในระหว่างที่ทรงถูกคุมขังด้วยการให้สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่โตมากจนคับวิหาร ขนาบข้างด้วยพุทธสาวก และถูกเรียกขานว่า "พระอึดอัด" มาจนถึงทุกวันนี้
นำทุกท่านชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่โดเด่นและงดงามที่สุดในพุกาม ณ วัดกุบยางกี อายุราว 2,000 ปี สร้างโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิทธะ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย สักการะ เจดีย์ชเวสิกอง มีความหมายว่า “เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ” สร้างโดย พระเจ้าอโนรธา มหาราชองค์แรก ผู้รวบรวมชนชาติพม่าเป็นปึกแผ่น ทรงส่งราชสาส์นไปขอพระไตรปิฎก 30 คัมภีร์จากเมืองสะเทิมของพวกมอญ แต่พระเจ้ามอญพระนามว่ามนุหาไม่ทรงยินยอม เป็นเหตุให้พระเจ้าอโนรธายกกองทัพไปรบตีชนะเมืองมอญ ทรงอัญเชิญพระไตรปิฎกมายังเมืองพุกาม และได้กวาดต้อนชาวบ้านรวมทั้งกษัตริมอญให้มาเป็นเชลยศึกที่พุกาม เจดีย์ชเวสิกองสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยของพระเจ้าจันสิทธา เมื่อปี พ.ศ. 1656 ลักษณะของเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบมอญ ประดับลายงดงามด้วยเฟื่องอุบะและแถบคาดรอบองค์ระฆังที่เรียกว่า “รัดอก” แซมลวดลายประดับทั้งขอบล่างและขอบบน องค์เจดีย์หุ้มด้วยแผ่นทอง
นำท่านชม วิหารธรรมยังยี สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป ด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา
จากนั้นเดินทาง สู่ เมืองมัณฑะเลย์ โดยรถบัส ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมง
เดินทางถึงมัณฑะเลย์ นำท่านชม วัดกุโสดอ พระเจ้ามินดงโปรดให้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้น ณ เมืองมัณฑะเลย์ ครั้งที่ 5 มีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ หลังจากนั้นโปรดให้สลักพระไตรปิฎกลงบนแผ่นหินแล้วสร้างเจดีย์ทรงปราสาทสำหรับประดิษฐานแผ่นจารึกแต่ละแผ่น วัดกุโสดอจึงถือเป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่สุดในโลก ลักษณะทางศิลปกรรม วัดกุโสดอ ประกอบด้วยเจดีย์ประธานซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวสิกองเมืองพุกาม แวดล้อมไปด้วยเจดีย์ทรงปราสาทขนาดเล็กซึ่งประดิษฐานแผ่นจารึกพระไตรปิฎก เจดีย์เหล่านี้มีการแบ่งกลุ่มตามหมวดของพระไตรปิฎกตั้งแต่พระวินัย พระสูตรและพระอภิธรรม
นำทุกท่านชมวิวของเมืองมัณฑะเลย์ ณ เขามัณฑะเลย์ฮิลล์ ตั้งอยู่ทาง ตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง เขาลูกนี้สูง 240 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่บนยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองมัณฑะเลย์เกือบทั้งเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Victoria Palace Hotel หรือระดับเทียบเท่า
เช้าตรู่ นำท่านร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมล้าง พระพักตร์พระมหามัยมุนี ซึ่งถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาด ใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่าโดยรอบๆระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
ออกเดินทางสู่ ท่าเรือริมแม่น้ำอิรวดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
นำทุกท่านล่องเรือข้ามฟาก สู่ ราชธานีเก่าของพระเจ้าปดุง เมืองมิงกุน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
จากนั้น ชมมหาเจดีย์ยักษ์ มิงกุน ถึงท่าเรือนั่งรถชมซากเจดีย์ขนาดใหญ่ ร่องรอยแห่งความทะเยอทยานของพระเจ้าปดุง ที่ใช้แรงงานทาส และนักโทษนับพันคนในการก่อสร้าง โดยตั้งพระทัยว่าจะสร้องให้สูงใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์แห่งสยาม และให้พระองค์สามารถทอดพระเนตร ได้จากเมืองอังวะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิรวดี แต่ด้วยงบประมาณที่บานปลาย ประกอบกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน จำทำให้การก่อสร้างล่าช้า และในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ในปี พ.ศ. 2363 หลังพ่ายแพ้ไทยในสงคราม 9 ทัพ เจดีย์องค์นี้ จึงสร้างได้แค่ฐาน หลังจากนั้นองค์เจดีย์ก็ถูกทิ้งร้างเรื่อยมา แต่เพียงฐานก็นับว่าใหญ่โตมาก หากสร้างเสร็จจะมีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก
นำทุกท่านชม ระฆังยักษ์มิงกุน สร้างเมื่อ พ.ศ.2351 โดยพระเจ้าปดุง สร้างถวายแด่เจดีย์มิงกุน มีน้ำหนัก 90 ตัน สูง 4 เมตร ปากระฆังกว้าง 5 เมตร ในอดีตระฆังองค์นี้ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากระฆังแห่งพระราชวังแครมลิน ในกรุงมอวโก ประเทศรัสเซีย แต่ระฆังเครมลินแตกไปแล้ว ปัจจุบันระฆัง
หลังจากนั้นชมเจดีย์สีขาวบริสุทธิ์ ที่สร้างบนฐาน 7 ชั้น รูปเกลียวคลื่นงดงาม เจดีย์พญาเธียรดาน สร้างขึ้นเมืองปี พ.ศ. 2329 เพื่อให้เปรียบเสมืองเจดีย์จุฬามณี ที่ตั้งอยู่เหนือเขาพระสุเมรุ ตามความเชื่อในไตรภูมิพุทธศาสนาที่ว่า คือแกนกลางจักรวาล ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยสัตตบริพันธ์ และมหานทีสีทันดรทั้ง 7 ชั้น พระเจดีย์แห่งนี้ยังถุกสร้างให้เป็นสักขีพยานรักของราชนิกุลอังวะ โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่มีต่อพระมเหสีชินพิวเม ที่สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าบากะยีดอว์จะขึ้นครองราชย์ แม้จะไม่ใช่หินอ่นเหมือนทัชมาฮาล แต่ก็ได้รับสมญานามว่า ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านร่องเรือกลับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองมัณฑะเลย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
บ่าย จากนั้นนำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษ ได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของพม่า ด้วยเหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่น พระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้ เผาราบเป็นหน้ากลอง หลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูน้ำรอบพระราชวัง ที่ยังเป็นของดั่งเดิมอยู่ ปัจจุปันพระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของ พระราชวังของเก่าขึ้นมา
นำท่านชม พระตำหนักไม้สักชเวนันดอว์ พระตำหนักนี้สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะ สลักประณีตอ่อนช้อย ทั้งหลังคา,บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติ และทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อ เป็นพระตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกพระตำหนักนี้ถวายเป็นวัด ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาว มัณฑะเลย์อย่างแท้จริง
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์
18.00 น. ออกเดินทางกลับ เชียงใหม่ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG726 (มีบริการอาหารและน้ำดื่มบนเครื่อง)
19.55 น. คณะเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
กำหนดการ : 24-27 ก.ค. , 07-10 ส.ค. | ||
---|---|---|
ลักษณะการเข้าพัก | ราคาทัวร์ รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) | ราคาทัวร์ ไม่รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) |
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ราคาท่านละ | 20,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ | 20,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (มีเตียง) ราคาท่านละ | 20,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) ราคาท่านละ | 20,900 | - |
ผู้ใหญ่ ต้องการพักห้องเดี่ยว ราคาท่านละ | 24,400 | - |
ผู้ใหญ่ 3 ท่าน พัก 1 ห้อง ราคาท่านละ | 20,900 | - |
กำหนดการ : 10-13 ก.ค. , 17-20 ก.ค. , 14-17 ส.ค. , 21-24 ส.ค. , 28-31 ส.ค. , 16-19 ก.ย. , 22-25 ก.ย. , 29 ก.ย.-02 ต.ค. , 05-08 ต.ค. , 08-11 ต.ค. , 13-16 ต.ค. , 20-23 ต.ค. , 27-30 ต.ค. , 29 ต.ค.-01 พ.ย. , 03-06 พ.ย. , 04-07 พ.ย. , 10-13 พ.ย. , 17-20 พ.ย. , 24-27 พ.ย. , 08-11 ธ.ค. , 17-20 ธ.ค. , 30 ธ.ค. 2563-02 ม.ค. 2564 , 31 ธ.ค. 2563-03 ม.ค. 2564 , 01-04 ม.ค. | ||
---|---|---|
ลักษณะการเข้าพัก | ราคาทัวร์ รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) | ราคาทัวร์ ไม่รวมตั๋ว(บาท/ท่าน) |
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ราคาท่านละ | 19,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ | 19,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (มีเตียง) ราคาท่านละ | 19,900 | - |
เด็ก พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) ราคาท่านละ | 19,900 | - |
ผู้ใหญ่ ต้องการพักห้องเดี่ยว ราคาท่านละ | 23,400 | - |
ผู้ใหญ่ 3 ท่าน พัก 1 ห้อง ราคาท่านละ | 19,900 | - |
แอปท่องเที่ยวที่ใช้ง่าย คล่องตัว ถูกใจ ราคาดูสบาย ชัดเจนไม่มีกั๊ก
เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ด้านการท่องเที่ยวสุดง่ายและครบวงจร
บนเทคโนโลยีความปลอดภัยสูงสุด เลือกชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง
ดีลพิเศษสุดคุ้มกับส่วนลดตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และ ทัวร์ ที่ไม่มีใครเหมือน