เที่ยวนครพนม 1 วัน ก้าวสู่ดินแดนของฮิปสเตอร์

2868
0
Share:

            นครพนม ใครหลายคนอาจจะรู้จักว่าเป็นเมืองริมโขงสุดน่ารัก ที่บรรยากาศสุขสงบ ตอบโจทย์วิถีสโลไลว์ฟ์ แต่นครพนมแห่งนี้ ไม่ได้มีดีเพียงแค่นั้นกันหรอกนะคะ เพราะยังมีสถานที่สุดฮิป สุดชิค และสุดคูลมากมายซุกซ่อนอยู่

            วันนี้ แอดขอชวนทุกท่านมาเก็บกระเป๋า แล้วไปเที่ยวนครพนมกันใน 1 วัน ตามคอนเซปต์ “ดินแดนของฮิปสเตอร์” สัมผัสกลิ่นอายของความเก่าแก่ ความงดงามของสถาปัตยกรรม ความหลากหลายทางเชื้อชาติ ที่ผสมผสานอยู่ภายในเมืองนครพนมแห่งนี้ อันเป็นเสน่ห์อีกแง่มุมหนึ่งที่ชวนน่าหลงใหล ไม่รอช้า ตามแอดมากันเลยค่ะ

 

– อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ –

           ปักหมุดจุดเช็คอินแรก ขอประเดิมด้วยการไปถ่ายรูปคู่กับสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของจังหวัดนครพนม นั่นคือ “อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์” ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ “ประธานโฮจิมินห์” หรือที่ชาวบ้านคุ้นเคยจนเรียกว่า “ลุงโฮ” เคยเดินทางมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย จังหวัดนครพนม เพื่อหาแนวร่วมไปกอบกู้ประเทศเวียดนามเมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีน

            สถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบผสมผสานระหว่างศิลปะเวียดนามและไทยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดดเด่นด้วยซุ้มประตูบริเวณทางเข้าที่บรรจงสร้างจากช่างมากฝีมือ สีสันสวยงาม สลักลวดลายประดับ โดยเป็นรูปดอกบัวและดอกราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติทั้ง 2

            บริเวณด้านมีสร้างสรรค์เป็นอาคารรูปทรงอย่างงดงามตามแบบฉบับเวียดนามที่ผสมผสานศิลปะแบบไทยไว้อย่างลงตัว ภายในมีหุ่นขี้ผึงจำลองของท่านโฮจิมินห์ ให้ทุกท่านได้เข้ามาเยี่ยมชมและรำลึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ส่วนบริเวณด้านหลังอาคารจะมีภูเขาจำลองตั้งตระหง่านอยู่ด้วย เหมาะกับการมาถ่ายรูปเก็บภาพสวย ๆ พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวความรู้ทางประวัติศาสตร์กลับไป

 

– ลานพญาศรีสัตตนาคราช – 

            แลนด์มาร์กอันศักดิ์สิทธ์ของเมืองพนมนคร ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งโขงอย่างโดดเด่น เป็นที่สะดุดตานักท่องเที่ยวทั้งหลาย สถานที่แห่งนี้ เกิดจากความเชื่อและพลังศรัทธาในเรื่อง “พญาศรีสัตตนาคราช” พญานาค 7 เศียรที่มีความสง่างามเป็นอย่างมาก ลำตัวเดียว ถือได้ว่าเป็นตระกูลพญานาค ที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา ทรงศักดาอานุภาพจนถือได้ว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งปวง

            ประติมากรรมแห่งนี้ สร้างด้วยทองเหลืองเป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ประดิษฐานอยู่บนแท่นฐานแปดเหลี่ยมอย่างงดงาม ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม ชมวิวธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งโขงกันได้อีกด้วย และยังมีอีก 1 ความพิเศษ คือ องค์พญานาคสามารถพ่นน้ำได้อีกด้วย
            อย่าลืมแวะมาสักการะองค์พญานาคกันด้วยนะคะ โดยมีความเชื่อว่า หากได้มาขอพรกับท่าน จะประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ และเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต และยังเป็นอีก 1 โลเคชั่นถ่ายรูปสวย ท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ริมน้ำ

 

– หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ –

           จุดถ่ายรูปสุดฮิปกลางเมือง โดยที่นี่เป็นหอนาฬิกาที่ชาวเวียดนามได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนม และเป็นเสมือนการขอบคุณคนไทยที่ให้ที่อยู่อาศัย เมื่อครั้งสมัยสงครามเดียนเบียนฟู ที่ชาวเวียดนามต้องอพยพลี้ภัยกันมาที่ประเทศไทย เมื่อฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงคราม ชาวเวียดนามต้องย้ายกลับปิตุภูมิประเทศ จึงได้สร้างหอนาฬิกานี้ขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2503
            หอนาฬิกาตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่าใจกลางเมืองนครพนม โดยมีความสูงประมาณ 50 เมตร นับเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมือง ที่แม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานกว่า 50 ปีแล้วก็ตาม บริเวณด้านหน้าจะมีอ่านน้ำพุทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งตรงกลางจะมีสวนหินขนาดจิ๋วประดับตกแต่ง และไฟหลากสีประดับยามค่ำคืน ถือเป็นจุดถ่ายรูปเอาใจชาวฮิปสเตอร์ ที่ให้มาแชะภาพชิค ๆ กันเป็นอย่างมาก

 

– 76A The Space –

            แวะพักเหนื่อยกันที่คาเฟ่สักครู่ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าคาเฟ่นครพนมก็ไม่เป็นสองรองใครเลยนะคะ ด้วยความเก๋ความชิคสุดครีเอท เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมากเลย สำหรับที่แรกที่แอดจะพาไป นั่นคือ “76A The Space” คาเฟ่สุดชิคที่ได้รีโนเวทจากบ้านหลังเก่าสไตล์เวียดนามอายุราว 100 ปีให้กลับมามีชีวิตชีวากันอีกครั้ง

            ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ดูทันสมัย แต่ภายนอกร้านยังคงเสน่ห์และกลิ่นอายแห่งความเก่าแก่ไว้อยู่แบบดั้งเดิม พร้อมเพลิดเพลินกับมุมถ่ายรูปที่เรียกได้เลยว่ามีมากมายจนเกือบกันชัตเตอร์กันไม่ทัน ชาวฮิปเตอร์ถูกใจสิ่งนี้

          ในเรื่องของเมนูอาหารก็มีบริการทั้งของหวานของคาว มาที่นี่ต้องสั่งกาแฟมาดื่มสักแก้ว รับรองไม่มีผิดหวัง เพราะทางร้านใช้เมล็ดคั่วอ่อน เน้นความกลมกล่อมในรสชาติของกาแฟให้มากที่สุด แถมยังมีขนมเค้กแครอท เมนูสุดฮิตที่นำเข้าจากนิวซีแลนด์  และคุกกี้รสเนยสูตรเฉพาะของทางร้านที่หาทานไม่ได้จากที่อื่น ไม่มาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วนะคะ ไม่ควรพลาดอย่างแรงกันเลย

 

– Jungle Space Cafe & Bistro – 

            อีก 1 คาเฟ่ที่ไม่ควรพลาดของนครพนม ความพิเศษอยู่ตรงคอนเซปต์แคมปิ้งกลางป่า โดยทางร้านได้จัดเตรียมเต็นท์กระโจมไว้เป็นมุมถ่ายรูปสุดเก๋ ชวนนึกถึงการการไปตั้งแคมป์กับครอบครัวหรือการไปเข้าค่ายลูกเสือสมัยเด็ก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้าในบริเวณโดยรอบ สร้างความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์มุมพักผ่อนสุดชิลล์จริงเป็นอย่างมาก

            ตัวร้านถูกออกแบบเป็นห้องกระจก รูปทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีดำ ดูแปลกตาไม่เหมือนใคร ตัดกับตัวร้านด้านหลังที่เป็นสีขาวสไตล์มินิมอลสุดชิค สำหรับอาหารและเครื่องดื่มมีไว้บริการหลากหลายเมนู โดยเฉพาะ “พิซซ่า” เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ไม่ควรพลาด แป้งบางกรอบ ราดซอสชุ่มฉ่ำสูตรพิเศษ  และ “Iced Amercano” รสชาติดี มีรสเปรี้ยวและขมจากเมล็ดกาแฟจาง ๆ ทำให้ดื่มง่าย จิบกาแฟ ทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลิน ท่ามกลางมุมพักผ่อนอันแสนผ่อนคลาย สบายอารมณ์ แถมยังได้เซฟรูปไว้ลงไอจีกันอีกด้วย

 

– วัดนักบุญอันนา หนองแสง –

            เดินทางกันต่อ แวะเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามริมเขื่อนแม่น้ำโขง สำหรับ “วัดนักบุญอันนา หนองแสง” เป็นวัดที่มีโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่และสวยงามมากแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2469 โดยบาทหลวงเอดัวร์ นำลาภ อธิการโบสถ์ เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์จวบจนปัจจุบัน
            ความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้ ไม่อาจละสายตาได้เลย โดยมีลักษณะเป็นหอคอยคู่ เป็นยอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่า สถาปัตยกรรมตามแบบฉบับโคโลเนียล มองเห็นได้จากในระยะไกล เป็นความสวยงามแปลกตาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นไว้ในเมืองนครพนม และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่รวมกัน เช่น คนไทย คนญวน คนจีน คนลาวเป็นต้น
           แอดขอแนะนำช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการถ่ายรูป คือ ช่วงเช้าที่แสงแดดจะสาดส่องเข้ามาบริเวณด้านหน้าของตัวโบสถ์ จะทำให้คุณได้รูปภาพที่สวยงามโดยไม่ย้อนแสง

 

– หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ นครพนม –

            มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  นครพนม” อาคารเก่าแก่ 3 ชั้น สร้างด้วยอิฐฉาบปูน บริเวณพื้นและบันไดสร้างด้วยไม้ ทาสีเหลืองโดดเด่นและสวยงาม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทยและยุโรป ในรูปแบบเรเนสซองส์ อีก 1 พิกัดถ่ายรูปสวย ที่เหล่าชาวไอจีต้องมาแชะภาพกันอย่างด่วนจี๋

            ภายในเป็นแหล่งรวบรวมมรดกทางสติปัญญาของชาติ บรรจุไว้หลากหลายรูปแบบ ม่ว่าจะเป็นหนังสือ สิ่งพิมพ์ โสตทัศนวัสดุ หนังสือภาษาโบราณ หนังสือตัวเขียน จารึก คัมภีร์ใบลาน หนังสือหายากที่ผลิตขึ้นในภูมิภาค อันเป็นคลังความรู้ที่ทรงคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย รวมทั้งเป็นศูนย์รวบรวม อนุรักษ์ สงวนรักษาและเผยแพร่ทรัพย์สินทางปัญญาของท้องถิ่น และเป็นแหล่งในการศึกษาวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์อีกด้วย

 

– บ้านอิงอุ่น เกสต์เฮ้าส์ – 

            ที่พักน่ารัก ที่ใครหลายคนเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปกัน เนื่องด้วยตัวอาคารหลังเก่าแห่งนี้มีความสวยงามและมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ในสไตล์สถาปัตยกรรมไทยผสมผสานกับความเป็นเวียดนามได้อย่างลงตัว อีกทั้งการตกแต่งที่ใช้บรรดาของเก่า เฟอร์นิเจอร์แนววินเทจมาตกแต่ง ทำให้บรรยากาศดูคลาสสิคและสัมผัสถึงกลิ่นอายความโบราณได้อีกด้วย ชาวฮิปสเตอร์ผู้หลงใหลในความวินเทจทั้งหลาย ไม่ควรพลาดมาลองครีเอทท่าโพสสุดชิคกันจนจุใจ
          ห้องพักที่นี่ราคาก็ไม่แพง แถมตั้งอยู่ใกล้กับพระธาตุพนม สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง เพียบพร้อมด้วยทุกสิ่งที่คุณ ได้แก่ Wi-Fi ฟรีทุกห้อง Wi-Fiในพื้นที่สาธารณะ  ที่จอดรถ  รูมเซอร์วิส บริการรถรับ-ส่งถึงสนามบินอีกด้วยนะ โดยห้องพักแต่ละห้อง ได้รับการออกแบบและตกแต่งเสมือนบ้านที่ให้ผู้เข้าพักรู้สึกถึงผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีพร้อมตอบสนองความต้องการของคุณทุกสิ่งสรรพ

 

– วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร – 

            ก่อนที่จะโบกมือลานครพนม ดินแดนของชาวฮิปสเตอร์กันนะคะ แอดขอพาทุกท่านไปสักการะขอพร ณ ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม สัญลักษณ์ประจำจังหวัดนครพนมที่ใครหลายคนคงเห็นกันผ่านตามาบ้างแล้ว สำหรับ “พระธาตุพนม” ปูชนียสถานสำคัญแห่งภาคอีสาน ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยมีลักษณะเป็นองค์เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม มีสีขาวบริสุทธิ์ตัดกับลวดลายประดับสีทองอย่างประณีต บริเวณฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ต้องแสงพระอาทิตย์อย่างงดงาม
            ภายในองค์พระธาตุ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา โดยมีความเชื่อว่า หากใครนมัสการพระธาตุครบทั้ง 7 ครั้ง จะได้รับอานิสงส์ผลบุญอันยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์อีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ หากได้มาเที่ยวนครพนมกันแล้ว อย่าลืมแวะมาสักการะพระธาตุประจำวันเกิดให้ได้เลยนะคะ เสริมบุญเสริมบารมี เพื่อชีวิตที่ดีและปังยิงกว่าเดิม

 

Share: